อาวดี้ ประเทศไทย ครบรอบ 5 ปี อวดโฉม Audi RS ครบทั้งไลน์อัพกว่า 20 คัน
Subaru ในสหรัฐอเมริกาได้ปรับไลน์อัพของรถครอสโอเวอร์ Crosstrek หรือรุ่น XV ในตลาดภูมิภาคอื่นใหม่ โดยเพิ่มเกรด SE – Special Edition เข้ามาเป็นทางเลือก ซึ่งมาพร้อมกับการแต่งพิเศษทั้งภายนอกและภายในบนการขับเคลื่อนของเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2.0 ลิตร
แม้ Subaru Crosstrek Special Edition ที่ออกมาจะเป็นเกรดกลาง แต่ก็มาพร้อมกับการแต่งพิเศษด้วยภายนอกสี Desert Khaki ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถสำหรับการลุย พร้อมกับมีกระจังหน้า ครอบกระจกมองข้าง มือจับเปิดประตู และเสาอากาศเป็นสีดำ Crystal Black Silica ในขณะที่ล้ออลูมินัมขนาด 17 นิ้วเป็นสีเทาเข้ม Dark Grey ส่วนป้ายที่ด้านหลังรถเป็นสีดำ Low Luster Black
ภายในห้องโดยสารเน้นใช้วัสดุหุ้มสีดำและแดงตัดกับการเดินด้ายสีแดงทั่วทั้งห้องโดยสาร ทั้งที่เบาะผ้าหน้า-หลัง ที่ท้าวแขนที่ประตู พวงมาลัยหุ้มหนัง เกียร์ แผงเหนือเรือนไมล์ แผงแดชบอร์ด และคอนโซลกลาง รวมทั้งใช้สีดำ Low Luster Black ในการแต่ง โดยที่มีจอมัลติมีเดีย Subaru Starlink ขนาด 8.0 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ในส่วนขุมกำลังของ Crosstrek Special Edition เหมือนกับเกรดพื้นฐานและ Premium ที่เป็นเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 4 สูบ 2.0 ลิตรมีกำลังขับเคลื่อน 152 แรงม้า โดยใช้เกียร์ Lineartronic CVT ส่งกำลัง และมากับระบบขับเคลื่อนด้วยทุกล้อ Subaru Symmetrical All-Wheel Drive พร้อม Active Torque Vectoring รวมทั้งมีความสูงของใต้ท้องรถจากพื้น 8.7 นิ้วเพื่อความสามารถในการลุย เหมือนกับ Crosstrek ทุกเกรดที่ขายในสหรัฐอเมริกา
นอกจากเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 4 สูบ 2.0 ลิตรในเกรดพื้นฐาน เกรด Premium และ Special Edition แล้ว Crosstrek ที่ขายในสหรัฐอเมริกายังมีทางเลือกอื่นด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2.5 ลิตรมีกำลังขับเคลื่อน 182 แรงม้าในเกรด Sport และ Limited รวมทั้งทางเลือกในแบบไฮบริดซึ่งมากับเทคโนโลยี StarDrive ที่ใช้มอเตอร์คู่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2.0 ลิตร สามารถเดินทางโดยไม่ปล่อยมลพิษได้ 17 ไมล์ด้วย
Crosstrek ทุกเกรดรวมทั้ง Special Edition ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่มาพร้อมกับเทคโนโลยีช่วยขับ EyeSight ที่มีการทำงานต่างๆ อย่างระบบเบรกอัตโนมัติก่อนการชน ระบบช่วยให้รถอยู่ในเลน ระบบเตือนเมื่อรถเบี่งออกนอกเลน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันพร้อมช่วยให้รถอยู่กลางเลนเป็นอุปกรร์มาตรฐาน ส่วนราคาของ Crosstrek Special Edition อยู่ที่ 26,745 ดอลล่าร์