ค่ายดาว 3 แฉกเสริมทัพรถเอสยูวีไฟฟ้าของตนจนครบเต็มทุกคลาสด้วยการเผยโฉม EQE SUV ออกมาเป็นรุ่นล่าสุด ซึ่งถูกระบุว่าเป็นเวอร์ชันที่ให้ความอเนกประสงค์ของรถซีดานไฟฟ้า EQE Saloon ที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้ รวมทั้งยังเป็นรถไฟฟ้ารุ่นที่ 4 ต่อจาก EQS, EQE Saloon และ EQS SUV ที่อยู่บนแพลตฟอร์มใหม่สำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ ไม่ใช่เวอร์ชันรถไฟฟ้าของรถใช้เครื่องยนต์สันดาปเหมือนกับ EQA, EQB และ EQC

แม้ Mercedes-Benz EQE SUV จะถูกระบุว่าเป็นเวอร์ชันที่ให้ความอเนกประสงค์มากขึ้นของ EQE Saloon และใช้แพลตฟอร์มใหม่เหมือนกัน แต่รถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่มาพร้อมกับตัวรถที่มีความคอมแพกต์มากขึ้นกว่า EQE Saloon โดยมีระยะฐานล้อยาว 3,030 มม. สั้นกว่าระยะฐานล้อของ EQE Saloon 90 มม. ในขณะที่ขนาดตัวรถของ EQE SUV มีความยาว 4,863 มม. กว้าง 1,940 มม. และสูง 1,686 มม. ซึ่งหมายความว่าสั้นกว่า EQE Saloon 83 มม. มีความกว้างน้อยกว่า 21 มม. แต่มีความสูงมากกว่า 174 มม. อย่างไรก็ตามทางค่ายดาว 3 แฉกระบุว่า EQE SUV เป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าที่มีพื้นที่ภายในกว้างในระดับแนวหน้าของคลาสเดียวกัน

EQE SUV ถูกเปิดตัวออกมาโดยมี 3 รุ่นให้เลือกคือ EQE 350+, EQE 350 4Matic และ EQE 500 4Matic โดย 2 รุ่นแรกใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังออกมา 215 kW หรือ 288 แรงม้าเท่ากัน แต่ EQE 350+ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยล้อหลังมีแรงบิดสูงสุด 565 นิวตัน-เมตร ในขณะที่ EQE 350 4Matic ซึ่งขับเคลื่อนด้วยล้อทั้ง 4 ของรถมีแรงบิดสูงสุด 765 นิวตัน-เมตร ขณะที่มอเตอร์ใน EQE 500 4Matic ซึ่งขับเคลื่อนทุกล้อของรถมีกำลัง 300 kW หรือ 402 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุด 858 นิวตัน-เมตร

ทาง Mercedes-Benz ระบุว่า EQE SUV ใช้แบตเตอรีลิเธียมไอออน 10 โมดูลที่พัฒนาขึ้นมาเองภายในโดยไม่ได้ระบุความจุของแบตเตอรีที่อยู่ในรถเอาไว้ แต่บอกว่าสามารถใช้ระยะการเดินทางได้ถึง 590 กิโลเมตรต่อการชาร์จในรุ่น EQE 350+ ส่วน EQE 350 4Matic เดินทางได้ถึง 558 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และ EQE 500 4Matic เดินทางได้ 547 กิโลเมตรต่อการชาร์จตามมาตรฐาน WLTP โดยแบตเตอรีรองรับเครื่องไฟชาร์จมาตรฐาน 11 kW และเครื่องชาร์จไฟที่เป็นอุปกรณ์เสริม 22 kW รวมไปถึงรองรับการชาร์จเร็วด้วยไฟกระแสตรงได้ถึง 170 kW ซึ่งทำให้สามารถเดินทางได้ 220 กิโลเมตรเมื่อชาร์จไฟแบบเร็ว 15 นาที

ส่วนในห้องโดยสารของรถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่จะมีจอ Hyperscreen เต็มความกว้างของแผงแดชบอร์ดเป็นออฟชันให้เลือกติดได้ รวมไปถึงระบบเสียง Dolby Atmos และระบบกรองอากาศ HEPA นอกจากนี้ยังมีระบบนำทางที่สามารถกำหนดเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับการแวะชาร์จไฟระหว่างทางได้ รวมไปถึงมีเทคโนโลยีไฟหน้า Mercedes Digital Light ให้เลือกซึ่งจะมีการฉายไฟเป็นสัญลักษณ์เตือนต่างๆ บนถนนข้างหน้าเพื่อเตือนผู้ขับ และมีเสียงที่เรียกว่า Serene Breeze ที่ให้ความผ่อนคลายในห้องโดยสาร
ทาง Mercedes-Benz จะผลิต EQE SUV ที่โรงงานในสหรัฐอเมริกา ส่วนราคาของรถจะถูกเปิดเผยออกมาในช่วงใกล้ขายที่ยังไม่ได้ระบุออกมา