BMW M4 CSL แกร่งและเร็วขึ้นแต่เบาลง

BMW เผยโฉม M4 CSL ออกมาโดยใช้พื้นฐานจาก M4 Competition แต่ถูกปรับให้มีความแข็งแกร่งขึ้น และเร็วขึ้น แต่น้ำหนักเบาลง โดยทางผู้ผลิตได้ระบุว่ารถสมรรถนะสูงรุ่นใหม่สำหรับใช้งานบนถนนของตนมีความใกล้เคียงกับรถแข่ง M4 GT3 เพื่อให้สมกับชื่อต่อท้าย CSL ที่มาจาก Competition Sport Lightweight

เพื่อทำให้ BMW M4 CSL มีน้ำหนักเบาสมกับชื่อต่อท้าย ทางวิศวกรของ BMW M จึงทำการถอดเบาะหลังของรถออก รวมทั้งเปลี่ยนฝากระโปรงหน้า หลังคา และฝาท้ายของรถเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ นอกจากนี้ยังทำการลดน้ำหนักของรถลงอีก 3.6 กิโลกรัมด้วยการปรับในส่วนของกระจังหน้า ไฟท้าย พรมปูพื้น และระบบปรับอากาศ

การลดน้ำหนักของรถลงยังรวมไปถึงมีการใช้เบรกคาร์บอนเซรามิก ล้อฟอร์จ และสปริงน้ำหนักเบาที่รีดน้ำหนักของรถลงได้อีก 21 กิโลกรัม เปลี่ยนวัสดุดูดซับเสียงใหม่ที่ลดน้ำหนักลง 15 กิโลกรัม และใช้ท่อไอเสียไทเทเนียมลดน้ำหนักลง 4 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับท่อไอเสียมาตรฐาน จนทำให้สามารถลดน้ำหนักของรถลงจากรถที่ใช้เป็นพื้นฐานรวมถึง 100 กิโลกรัม

ด้านกำลังขับเคลื่อนของ M4 CSL จากเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ อยู่ที่ 550 แรงม้ามากกว่า M4 Competition 40 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงสุดของรถอยู่ที่ 650 นิวตัน-เมตร โดยใช้เกียร์ M Steptronic 8 สปีดส่งกำลังสู่ล้อหลัง ส่วนอัตราเร่งของรถถูกระบุตัวเลขไว้ที่ 3.7 วินาทีในการทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และ 10.7 วินาทีสำหรับการทำความเร็วจาก 0-200 กม./ชม. ในขณะที่ความเร็วสูงสุดไปถึง 307 กม./ชม. นอกจากนี้ทาง BMW ยังระบุว่า M4 CSL เป็นรถที่เร็วที่สุดในสายการผลิตของตน และสามารถใช้เวลา 7 นาที 20.2 วินาทีในการขับรอบสนาม Nurburgring Nordschleife

เพื่อรองรับสมรรถนะที่สูง M4 CSL จังมีการใช้โช๊กอัพเฉพาะและมีการปรับจูนแชสซีส์ใหม่ รวมทั้งลดความสูงลงจาก M4 Competition 0.3 นิ้ว มีการเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นในจุดเชื่อมระหว่างตัวถังรถกับซับเฟรมหลัง และมีการใช้บาร์กันโคลงที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ รวมไปถึงมีการปรับโปรแกรมควบคุมเสถียรภาพของรถโดยเฉพาะสำหรับรุ่นด้วย

ส่วนการหยุดรถเป็นหน้าที่ของฟิกคาลิเปอร์ 6 ลูกสูบที่ล้อหน้า และคาลิกเปอร์ลูกสูบเดียวที่ล้อหลัง โดยรถมาพร้อมกับยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 ขนาด 275/35ZR19 ที่ล้อหน้า และขนาด 285/30 ZR20 ที่ล้อหลัง

ภายนอกของ M4 CSL ดุดันไม่แพ้สมรรถนะด้วยการเผยให้เห็นหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์และคาร์บอนไฟเบอร์ที่บางส่วนบนฝากระโปรงหน้าพร้อมกับใช้สีแดงแต่งเพิ่มความเด่นทั้งที่กระจังหน้า ฝากระโปรง และหลังคาของรถ นอกจากนี้ยังใช้กระจังหน้าไตคู่ใหม่ เปลี่ยนไฟ Daytime Running Light เป็นสีส้ม ขณะที่ด้านหลังของรถมีไฟท้าย LED ใหม่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี BMW Laser

M4 รุ่นน้ำหนักเบาและแรงกว่าปกติมี 3 สีภายนอกให้เลือกคือสีเทา Brooklyn Grey สีขาว Alpine White หรือสีดำ Black Sapphire Metallic ส่วนในห้องโดยสารของรถมาพร้อมกับเบาะบั๊กเก็ตซีท M Carbon พร้อมคอนโซลกลางคาร์บอนไฟเบอร์

ทาง BMW จะเริ่มผลิต M4 CSL ตั้งแต่เดือนกรกฏาคม 2022 นี้ โดยจำกัดจำนวนแค่ 1,000 คันสำหรับขายทั่วโลก

Scroll to Top