สานฝันที่สุดไฮไลท์สำคัญในชีวิตของนักแสดงหนุ่มฮอลลีวู้ดมากฝีมือ Michael Fassbender
กับครั้งแรกของการลงสนามแข่งในรายการแข่งขัน Le Mans
การแข่งขันรถยนต์ FIA World Endurance Championship WEC สนามที่ 3 ในรายการ Le Mans 24 ชั่วโมง ณ ประเทศฝรั่งเศส
นักแสดง Hollywood และนักแข่งรถปอร์เช่ Michael Fassbender เข้าร่วมการแข่งขัน Le Mans 24 ชั่วโมง เป็นครั้งแรก
หนุ่มลูกครึ่งชาวเยอรมัน-ไอริช ลงสนามแข่งด้วยรถแข่งปอร์เช่ 911 RSR ภายใต้สังกัดทีมแข่งอิสระ Proton Competition ผนึกกำลังนักแข่งชาวออสเตรเลีย Matt Campbell และ Zacharie Robichon จากแคนาดา
YouTube series “Road to Le Mans” ถ่ายทอดเรื่องราวเส้นทางของการเป็นดารานักแสดง กับการก้าวเข้าสู่อาชีพนักแข่งหน้าใหม่ในรายการ endurance สุดคลาสสิคของประเทศฝรั่งเศส
เมื่อสปอร์ตไลท์ของโลกภาพยนต์ถูกส่องมาที่เมือง Sarthe กับการแข่งขัน Le Mans 24 ชั่วโมง ครั้งที่ 90 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 11-12 มิถุนายน 2022 ที่ผ่านมา โดยนักแสดงหนุ่ม Hollywood และนักขับรถแข่งปอร์เช่ Michael Fassbender ได้ลงแข่งครั้งแรกในรายการการแข่งขัน endurance สุดคลาสสิคระดับตำนานของประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 3 ปี หนุ่มชาวเยอรมัน เชื้อสายไอริช วัย 45 ปี ผู้มีชื่อเสียงจากภาพยนต์ฟอร์มยักษ์มากมายที่ทำเงินทั่วโลก อาทิ “Inglourious Basterds“ และ “X-Men” ได้ทุ่มเทเตรียมความพร้อมอย่างหนัก รวมทั้งความมุ่งมั่นอันแรงกล้า เพื่อสานฝันอีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญในชีวิต สำหรับเส้นทางอาชีพนักแข่งรถของเขา
สตุ๊ทการ์ท. Michael Fassbender เข้าร่วมสงครามความเร็วระยะยาวที่ใช้เวลาแข่งขันถึง 2 รอบหน้าปัดนาฬิกา หรือ 24 ชั่วโมง โดยนั่งประจำการหลังพวงมาลัยของรถแข่งปอร์เช่ 911 RSR หมายเลข 93 ตัวแรงที่มีระดับความเร็วถึง 515 แรงม้า (378 กิโลวัตต์) ในรุ่น GTE-Am ภายใต้สังกัดทีม Proton Competition ทีมแข่งอิสระของปอร์เช่ พร้อมกับอีก 2 นักแข่งจากประเทศออสเตรเลีย Matt Campbell และ Zacharie Robichon จากประเทศแคนาดา
Michael Fassbender นักแสดงมากฝีมือ ผู้ซึ่งกำลังมองตัวเองในอนาคตข้างหน้าไปกับไฮไลท์สำคัญในสายอาชีพใหม่ที่กำลังมาถึงของเขา ได้เผยความรู้สึกว่า “การได้ลงแข่งในรายการ Le Mans 24 ชั่วโมง เป็นความใฝ่ฝันที่ผมวาดไว้มาโดยตลอด และสิ่งที่มาพร้อม กับความฝันที่ไม่ได้เตรียมการเอาไว้มาก่อนนั้น คือคุณจะต้องมุ่งมั่นทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจ รวมไปถึงการรับมือกับสิ่งที่จะต้องเผชิญหน้ากับมัน ผมไม่ได้เพียงแค่ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากการแข่งขันในสุดสัปดาห์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเรียนรู้ถึงวิธีการเอาชนะกับสิ่งต่าง ๆ ให้ได้ พร้อมกันนี้การลงแข่งในครั้งนี้ยังได้มอบโอกาสให้ผมได้แสดงศักยภาพในตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ มันคือหนึ่งในความมุ่งมั่นตั้งใจที่ผมต้องการทำให้ดีที่สุด”
เส้นทางอาชีพนักแข่งรถของ Michael Fassbender เริ่มต้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการได้พบเพื่อนนักแสดงอย่าง Patrick Dempsey เจ้าของทีม Dempsey-Proton Racing และอดีตนักแข่ง Le Mans ชาวอเมริกัน ด้วยบทสนทนาที่สนุกสนานในระหว่างการเดินทางบนเที่ยวบินจากลอนดอนไปยังลอสแองเจลิส เขาได้วางแผนปูเส้นทางอาชีพให้แก่นักแสดงหนุ่ม Fassbender ด้วยการที่ Patrick Dempsey ได้ติดต่อทาบทาม Michael Fassbender ให้กับหัวหน้าของทีม Porsche Motorsport Marketing ในการเข้าชมการแข่งขัน Le Mans ของ Michael Fassbender ในปี 2018 ซึ่งแผนการนี้ได้รับถูกขนานนามว่าเป็น “Road to Le Mans” และถูกนำมาใช้เป็นชื่อคอนเทนต์ในช่องทาง YouTube series ที่ถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางก้าวเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตของดารานักแข่งหน้าใหม่
และจากนั้นไม่นาน Michael Fassbender เขาเองก็ได้เริ่มก้าวแรกบนเส้นทางนักแข่งรถอย่างจริงจังใน Porsche Driving Experience โปรแกรมการฝึกสอนระดับเริ่มต้นสำหรับผู้สนใจในกีฬามอเตอร์สปอร์ต ต่อด้วยโปรแกรม Porsche Racing Experience ตามมาด้วยการเข้าร่วมแข่งขันในฤดูกาล Porsche Sports Cup Deutschland และถูกรับเชิญในรายการแข่งขัน Porsche Mobil 1 Supercup ด้วยการนั่งประจำการหลังพวงมาลัยรถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 Cup
การทำผลงานครั้งใหญ่สำหรับ 2 ฤดูกาล ในระหว่างการแข่งขัน ELMS
ด้วยเป้าหมายในการพิชิตชัยที่รายการ Le Mans นักแสดงและนักแข่งหนุ่ม Michael Fassbender ต้องเข้าร่วมการแข่งขันในรายการ European Le Mans Series (ELMS) ภายใต้สังกัดทีม Proton Competition ในช่วงปี 2020 พร้อมกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง Richard Lietz จากประเทศออสเตรีย และ Felipe Fernández Laser นักแข่งหนุ่มจากเมือง Heidelberg ประเทศเยอรมนี สามารถเก็บคะแนนสะสมได้ถึง 47 คะแนนจาก 4 สนาม จบอันดับที่ 6 ในรุ่น GTE และจากทีมแข่งชุดเดียวนี้เองทำให้ Fassbender คว้าไปได้ถึง 61 คะแนนจาก 6 สนามได้ในฤดูกาลต่อมา และจบด้วยอันดับ 5 บนตารางคะแนนสะสม
ไฮไลท์ของฤดูกาลนั้นคือการฉลองโพเดียมแรกในชีวิตของ Michael Fassbender ในรายการ ELMS ด้วยผลงานอันดับ 2 ในรอบสุดท้ายที่เมือง Portimao ประเทศโปรตุเกส เมื่อเดือนตุลาคม 2021 ที่ผ่านมา โดย Michael Fassbender กล่าวถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า “การได้ขึ้นโพเดียมในครั้งนั้นนับเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากต่อทุกคนในทีม และหลังจากที่ผ่านความผิดหวัง ความพ่ายแพ้ และพลาดโอกาสหลายครั้งมาตลอด 3 ปี ผลลัพธ์ดังกล่าวทำให้เรารู้สึกดีใจได้อย่างน่ามหัศจรรย์”
ด้วยการลงแข่งครั้งแรกในรายการระยะยาวสุดคลาสสิคของประเทศฝรั่งเศส สิ่งแรกที่ Michael Fassbender ต้องทำเหมือนกับนักแข่งหน้าใหม่ทุกคน คือการเติมเต็มประสบการณ์ของเขาก่อนที่จะก้าวเท้าลงสนามแข่งอันเปรียบได้กับตำนานของวงการความเร็ว ในช่วงแรกเขาต้องเข้ารับการทดสอบด้วย simulator โดยนักแข่งจะต้องสร้างความคุ้นเคยให้กับตัวเองด้วยการปฏิบัติตัวเมื่อมีรถ safety car การขับขี่ใน slow zones และมาตรการด้านความปลอดภัยอื่น ๆ สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งตลอดระยะทาง 13.626 กิโลเมตร บนสนาม Circuit des 24 Heures เมื่อเปรียบเทียบกับสนามอื่น
YouTube series “Road to Le Mans” เรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดเบื้องหลังการแข่งขันอันน่าตื่นเต้นเร้าใจ
Lietz เพื่อนนักแข่งชาวออสเตรียร่วมทีมกล่าวว่า “Michael Fassbender อาจจะไม่ได้มีพรสวรรค์ติดตัวมาตั้งแต่แรก แต่เขาเป็นคนที่มีความตั้งใจสูง นั่นคือเหตุผลที่ผมทุ่มเทความพยายามอย่างมาก เพื่อช่วยเหลือและเตรียมความพร้อมในตัวเขาให้สามารถเผชิญกับความท้าทายในการแข่งขัน Le Mans 24 ชั่วโมงได้อย่างดี ซึ่งผมรับรู้ถึงศักยภาพของเขาได้ในทันที ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เราได้ลงแข่งด้วยกัน”
การเดินทางในฐานะนักแข่งรถของ Michael Fassbender ได้รับการเผยแพร่ไว้ในช่องทาง YouTube series “Road to Le Mans” ซึ่งมีผู้รับชมมากกว่า 75 ล้านคน รวมถึง 24 episodes จนถึงปัจจุบัน เนื้อหาของสารคดีได้ถ่ายทอดเรื่องราวทั้งจุดสูงสุด และจุดต่ำสุดในชีวิตของดารานักแสดงและนักแข่งรถตลอดระยะเวลา 3 ปี นอกจากนี้ยังนำเสนอความเป็นมา รวมถึงเบื้องหลังของวงการมอเตอ์สปอร์ต และการก่อตั้ง Porsche Motorsport สามารถรับชม Season ที่ 3 ได้แล้ววันนี้ที่ www.porsche.com/RoadToLeMans
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม ภาพยนตร์ และภาพถ่าย ได้ที่ Porsche Newsroom: newsroom.porsche.com
Twitter channel @PorscheRaces นำเสนอข้อมูลล่าสุดจาก Porsche Motorsport และภาพถ่ายจากขอบสนามแข่งขันทั่วทุกมุมโลก
เกี่ยวกับ AAS Group
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย เอเอเอส กรุ๊ป ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่และเบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญ ทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า “AAS The Name you can Trust” ซึ่งพิสูจน์ ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
AAS Auto Service Co., Ltd. โทร. 02-522-6655 ext. 101-103 หรือ https://www.porsche.com/pap/_thailand_/
Porsche Centre Bangkok โทร. 02-522-6655
Porsche Centre Pattanakarn โทร. 02-369-1111
Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911
Porsche Studio Bangkok ICONSIAM ชั้น 1 โทร. 02-288-0911
Porsche PR Thailand
Public Relations and Media
อจิณไตย สุดใจ (จูซ) / สุปรีชา เมืองมาหล้า (ดรีม)
Phone: +662 522 6655 ext. 448, 447
E-mail: [email protected]
Dr. Ing. h.c. F. Porsche Aktiengesellschaft 1 von 4 Communications, Sustainability and Politics
Porscheplatz 1 Corporate and Product Communications
70435 Stuttgart Stefan Mayr-Uhlmann
Phone +49 (0)711 911 – 22155
Email [email protected]