New Comer Toyota RAV4 เสริมความเท่และความสามารถในการลุยที่ญี่ปุ่นด้วยเกรด
Adventure Off-Road Package II

Toyota ได้ทำการอัพเดตให้รถเอสยูวี RAV4 ที่ญี่ปุ่น พร้อมกับเสริมเกรดพิเศษ Adventure Off-Road Package II ที่ถูกติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มความสามารถในการลุยและการท่องเที่ยวรวมทั้งเพิ่มความเท่ให้กับตัวรถโดยใช้พื้นฐานจาก RAV4 เกรด Adventure เข้ามาเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มขึ้น

การที่เกรดพิเศษสำหรับผจญภัยได้มากขึ้นของ Toyota RAV4 ถูกตั้งชื่อว่า Adventure Off-Road Package II เนื่องจากในปี 2020 เคยมี Adventure Off-Road Package ออกมาแล้ว โดย RAV4 Adventure Off-Road Package II ใช้พื้นฐานจากเกรด Adventure จึงทำให้มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานภายนอกรถตามเกรด Adventure ที่แตกต่างจากเกรดอื่นอยู่แล้วทั้งในส่วนกระจังหน้า กันชนหน้า-หลังที่มาพร้อมกับแผ่นกันกระแทก และกระจกมองข้างสีดำ แต่รถเอสยูวีเกรดพิเศษใหม่จะใช้สีดำด้านที่เรียกว่า Gori Gori Black ที่มีการเคลือบผิวหลายครั้งเพื่อให้ทนต่อการขีดข่วนกับครอบกระจกมองข้าง แผ่นกันกระแทก และกันชนหน้า-หลังของรถที่เป็นสีทูโทน

ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ภายนอกรถที่มาพร้อมกับ Adventure Off-Road Package II มีล้ออลูมินัมสีดำด้านลายก้านวายขนาด 18 นิ้วพร้อมยางออลเทอร์เรน 225/60R18 คิ้วแต่งฝาท้ายสีดำด้านในรถสีทูโทน รูฟเรลที่หลังคา ป้ายโลโก้ Off-Road Package สีดำที่ด้านหลังรถ รวมไปถึงมีการปรับช่วงล่างใหม่ที่เพิ่มความสูงของรถขึ้น 10 มม. ส่วนสีภายนอกรถมีให้เลือก 5 สีคือสีขาว Super White II สีเทา Gray Metallic สีดำ Attitude Black Mica ในแบบโมโนโทน ส่วนสีทูโทนมีให้เลือกระหว่างสีฟ้า Grayish Blue กับสีดำ Attitude Black Mica หรือสีเขียว Urban Khaki กับสีดำ Attitude Black Mica ในห้องโดยสารของ RAV4 Adventure Off-Road Package II เน้นใช้วัสดุสีดำร่วมกับการแต่งด้วยสีแดงทั้งการเดินด้ายที่เบาะและแผงแดชบอร์ด รวมทั้งการแต่งขอบที่วางแก้วน้ำและพรมปูพื้นด้วยสีแดง ส่วนเบาะหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์มีรูระบายอากาศ และมีโลโก้ Off-Road Package ที่แผงแดชบอร์ดฝั่งผู้โดยสาร

การขับเคลื่อนของ RAV4 เกรดพิเศษมีให้เลือก 2 แบบคือใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือแบบไฮบริดใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตรทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและมีระบบ E-Four ขับเคลื่อน ส่วนราคาของรถอยู่ที่ 3,884,000 เยนหรือประมาณ 1,004,000 บาทในรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดา และ 4,503,000 เยนหรือประมาณ 1,160,000 บาทในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด
Scroll to Top