Classic Car Bentley เตรียมทำ Speed Six รถแข่งเลอมังส์ในอดีตอีกครั้ง
บรรดานักสะสมรถคลาสสิกที่งบไม่จำกัดคงต้องเตรียมสมุดเช็กและปากกาเอาไว้ให้ดี เพราะทาง Mulliner ฝ่ายผลิตรถพิเศษของ Bentley มีโครงการณ์ที่จะสร้างรถรุ่นสำคัญในประวัติศาสตร์ของตนออกมาอีก โดยคราวนี้เป็น Speed Six ที่เคยชนะการแข่งเลอมังส์ 2 ครั้ง
หลังจากที่ฝ่าย Mulliner ของ Bentley มีโครงการณ์สร้างรถดังในอดีต Blower ตามสเปกในอดีตออกมาเมื่อปี 2020 โปรเจ็กต์ล่าสุดของฝ่ายผลิตรถพิเศษในการทำรถรุ่นดังในอดีตคือ Speed Six ซึ่งทาง Bentley ระบุว่าเป็นการใช้ความรู้มากมายในการสร้างรถที่ได้จากการทำ Blower ออกมา
ความสำคัญของ Speed Six ต่อประวัติศาสตร์ของ Bentley คือเป็นรถแข่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของผู้ผลิตรถยนต์สหราชอาณาจักรรายนี้ เคยชนะการแข่งเลอมังส์ 2 ครั้งในปี 1929 และ 1930 โดยที่มี Woolf Barnato, Glen Kidston และ Sir Henry “Tim” Birkin เป็นผู้ขับ โดย Speed Six เป็นการปรับปรุงให้ดีขึ้นจาก Bentley 6 ½ Liter ปี 1926 ซึ่งการพัฒนารถเป็นผลมาจากแนวคิดของ W.O. Bentley ที่ว่าความจุของเครื่องยนต์เป็นหนทางสู่พลังในการขับเคลื่อนที่ดีกว่าการใช้ซูเปอร์ชาร์จของเครื่องยนต์ Bentley 4 ½ Liter ที่อยู่ใน Bentley Blower
ผลที่ออกมาคือเครื่องยนต์ที่มีกำลัง 149 แรงม้า แต่เมื่อมีการเปิดตัว Speed Six ออกมาในปี 1928 ได้มีการปรับปรุงเครื่องยนต์จนมีกำลัง 180 แรงม้า ในขณะที่เวอร์ชันรถแข่งซึ่งได้มีการปรับอัตราส่วนกำลังอัดใหม่ทำให้มีกำลัง 203 แรงม้า
ด้วยเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ซึ่งติดตั้งบนแชสซีส์ที่สั้นโดยมีความยาว 3,353 มม. สำหรับ Speed Six โดยเฉพาะ ทำให้รถสามารถทำเวลาต่อรอบได้ดีกว่าสถิติการขับรอบสนามเลอมังส์ถึง 46 วินาที และทำระยะทางได้ 2,844 กิโลเมตรระหว่างการแข่ง 24 ชั่วโมงซึ่งเป็นการสร้างสถิติระยะทางที่ไม่มีใครทำลายได้จนกระทั่ง 30 ปีให้หลัง
ทาง Bentley จะใช้รถสำหรับขับบนถนนสาธารณะที่ผลิตออกมาในปี 1929 ที่มีตัวถังจากการผลิตของ Vanden Plas เป็นแบบในการสร้าง และนอกจากรถเต็มคันแล้วทางทีมงานจะใช้พิมพ์เขียวดั้งเดิมของรถเพื่อสร้างโมเดล 3D CAD ของ Speed Six ก่อนเริ่มสร้างรถต้นแบบ
ทาง Bentley จะเริ่มการสร้าง Speed Six ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งนอกจากรถจำนวน 12 คันที่ผลิตให้ผู้ซื้อแล้ว จะมีการทำออกมาสำหรับเก็บไว้ที่ Bentley ด้วย อย่างไรก็ตามจากจำนวนผลิตที่จำกัดจึงไม่แน่ว่าตอนนี้ Speed Six ทั้ง 12 คันอาจมีเจ้าของไปหมดแล้ว