New Comer Toyota Harrier เสริมขุมกำลังไฮบริดพร้อมอัพเดตอุปกรณ์มาตรฐานที่ญี่ปุ่น
Toyota Harrier เจเนเรชันปัจจุบันที่ขายในญี่ปุ่นด้วยสองทางเลือกของเครื่องยนต์คือเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรไฮบริด ถูกเพิ่มทางเลือกใหม่ในแบบปลั๊กอินไฮบริด โดยที่จะมาเป็นเกรดสูงสุดของรถเอสยูวีรุ่นนี้ในญี่ปุ่น รวมทั้งทาง Toyota ยังทำการอัพเดตอุปกรณ์มาตรฐานให้กับ Harrier ทุกเครื่องยนต์ที่ขายในบ้านตนเองด้วย
Toyota Harrier ปลั๊กอินไฮบริดซึ่งจะถูกขายในเกรดเดียวคือเกรด Z ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดของ Harrier ในญี่ปุ่น มาพร้อมกับระบบไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 177 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 219 นิวตัน-เมตรที่ 3,600 รอบ/นาที โดยทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้ากำลัง 182 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตัน-เมตร และมีมอเตอร์หลังสำหรับระบบขับเคลื่อน E-Four กำลัง 54 แรงม้า แรงบิด 121 นิวตัน-เมตร ในขณะที่กำลังรวมจากระบบขับเคลื่อนไฮบริดอยู่ที่ 306 แรงม้า
ส่วนแบตเตอรีลิเธียมไอออนใน Harrier ปลั๊กอินไฮบริดมีความจุ 18.1 kWh ให้ระยะการเดินทางโดยไม่ใช้น้ำมันได้ 93 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามทาง Toyota ไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาการไฟของ Harrier ปลั๊กอินไฮบริดไว้
นอกจากขุมกำลังที่แตกต่างจาก Harrier รุ่นอื่นแล้ว รุ่นปลั๊กอินไฮบริดยังมาพร้อมกับความแตกต่างด้านรูปลักจากรุ่นอื่นด้วย อย่างการมีกระจังหน้าสีดำเฉพาะรุ่น และมีล้ออลูมินัมสีดำปัดเงาขนาด 19 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนในห้องโดยสารมีเบาะนั่งหุ้มหนังแท้สีดำเดินด้ายสีแดงตรงกลาง รวมทั้งมีจอแสดงข้อมูลผู้ขับดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว จอระบบออดิโอขนาด 12.3 นิ้วมาพร้อมกับระบบนำทาง และระบบเสียงพรีเมียม JBL เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในห้องโดยสาร
นอกจากการเพิ่มรุ่นปลั๊กอินไฮบริดแล้ว Toyota ยังปรับอุปกรณ์มาตรฐานให้กับ Harrier ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินและไฮบริดด้วย ซึ่งจะทำให้รถทั้งหมดมาพร้อมกับแพกเก็จความปลอดภัย Toyota Safety Sense ทำให้รถมาพร้อมกับการทำงานต่างๆ อย่างระบบตรวจจับรถที่กำลังเข้ามาที่ทางแยกเมื่อกำลังเลี้ยวขวา และระบบตรวจจับคนข้ามถนนทั้งเมื่อเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวา
ส่วน Harrier เกรด Z ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดจะมีจอระบบออดิโอขนาด 12.3 นิ้วมาพร้อมกับระบบนำทาง และจอแสดงข้อมูลผู้ขับ TFT สีขนาด 12.3 นิ้ว ทาง Toyota จะเริ่มขาย Harrier ปลั๊กอินไฮบริดตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2022 นี้ในราคา 6,200,000 เยนหรือประมาณ 1,632,000 บาทโดยมีให้เลือก 4 สีคือสีแดง Sensual Red Mica สีขาว Platinum White Pearl Mica สีดำ Precious Black Pearl และสีเทา Gray Metallic ซึ่งเป็นสีใหม่ ส่วน Harrier เครื่องยนต์เบนซินและไฮบริดที่ได้รับการอัพเดตเริ่มขายตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคมนี้
Toyota Harrier ปลั๊กอินไฮบริดซึ่งจะถูกขายในเกรดเดียวคือเกรด Z ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดของ Harrier ในญี่ปุ่น มาพร้อมกับระบบไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 177 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 219 นิวตัน-เมตรที่ 3,600 รอบ/นาที โดยทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้ากำลัง 182 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตัน-เมตร และมีมอเตอร์หลังสำหรับระบบขับเคลื่อน E-Four กำลัง 54 แรงม้า แรงบิด 121 นิวตัน-เมตร ในขณะที่กำลังรวมจากระบบขับเคลื่อนไฮบริดอยู่ที่ 306 แรงม้า
ส่วนแบตเตอรีลิเธียมไอออนใน Harrier ปลั๊กอินไฮบริดมีความจุ 18.1 kWh ให้ระยะการเดินทางโดยไม่ใช้น้ำมันได้ 93 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามทาง Toyota ไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาการไฟของ Harrier ปลั๊กอินไฮบริดไว้
นอกจากขุมกำลังที่แตกต่างจาก Harrier รุ่นอื่นแล้ว รุ่นปลั๊กอินไฮบริดยังมาพร้อมกับความแตกต่างด้านรูปลักจากรุ่นอื่นด้วย อย่างการมีกระจังหน้าสีดำเฉพาะรุ่น และมีล้ออลูมินัมสีดำปัดเงาขนาด 19 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนในห้องโดยสารมีเบาะนั่งหุ้มหนังแท้สีดำเดินด้ายสีแดงตรงกลาง รวมทั้งมีจอแสดงข้อมูลผู้ขับดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว จอระบบออดิโอขนาด 12.3 นิ้วมาพร้อมกับระบบนำทาง และระบบเสียงพรีเมียม JBL เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในห้องโดยสาร
นอกจากการเพิ่มรุ่นปลั๊กอินไฮบริดแล้ว Toyota ยังปรับอุปกรณ์มาตรฐานให้กับ Harrier ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินและไฮบริดด้วย ซึ่งจะทำให้รถทั้งหมดมาพร้อมกับแพกเก็จความปลอดภัย Toyota Safety Sense ทำให้รถมาพร้อมกับการทำงานต่างๆ อย่างระบบตรวจจับรถที่กำลังเข้ามาที่ทางแยกเมื่อกำลังเลี้ยวขวา และระบบตรวจจับคนข้ามถนนทั้งเมื่อเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวา
ส่วน Harrier เกรด Z ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดจะมีจอระบบออดิโอขนาด 12.3 นิ้วมาพร้อมกับระบบนำทาง และจอแสดงข้อมูลผู้ขับ TFT สีขนาด 12.3 นิ้ว ทาง Toyota จะเริ่มขาย Harrier ปลั๊กอินไฮบริดตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2022 นี้ในราคา 6,200,000 เยนหรือประมาณ 1,632,000 บาทโดยมีให้เลือก 4 สีคือสีแดง Sensual Red Mica สีขาว Platinum White Pearl Mica สีดำ Precious Black Pearl และสีเทา Gray Metallic ซึ่งเป็นสีใหม่ ส่วน Harrier เครื่องยนต์เบนซินและไฮบริดที่ได้รับการอัพเดตเริ่มขายตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคมนี้